วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557
เทศกาลปลายปี
เมื่อใกล้จะถึงสิ้นปี หลาย ๆ คนต้องคิดถึงเทศกาลรื่นเริง ปาร์ตี้ สังสรรค์ ฝรั่งก็จะค่อนข้างให้ความสำคัญกับวันคริสมัส (ประวิติ หาอ่านใน วิกิพีเดีย) คนไทยก็มีเห่อ ๆ บ้างตาม กระแส commercial promoted แต่คนไทยก็จะให้ีความสำคัญกับปีใหม่ซะมากกว่า (เพราะปีใหม่เป็นวันหยุด)ผมโช่คดีที่ได้เคยไปสัมผัสบรรกาศช่วงคริสมัสในต่างประเทศ
บรรยากาศที่สัมผัสได้หลัก ๆ คือ การตกแต่งร้านค้า หรือ ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยมีการประดับประดาด้วยไฟที่สวยงาม อากาศก็เย็น ๆ เหมาะกับกับการเดินเล่นกับคนที่รู้ใจ นอกจากการตกแต่งแล้ว ก็จะมีการจัดลานขายของซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกของขวัญ ของฝากให้แต่ละคนได้เลือกซื้อ (คล้าย ๆ กับตลาดนัดบ้านเรา )และก็จะมีลานน้ำแข็งให้ได้เล่น สเก็ตน้ำแข็งกัน บรรยากาศรื่นเริงน่าสนุก ๆจริงครับ
ในวันคริสมัสคนส่วนใหญ่เขาทำอะไรกัน ในส่วนเรื่องของศาสนาผมไม่ขอพูดถึง เอาเป็นว่าในช่วงเวลา ก็จะเป็นการรวมญาติ กินข้าวกัน และผู้ใหญ่ก็จะมอบของขวัญให้กับเด็ก ๆ ในวันดังกล่าวคนส่วนใหญ่จะอยู่กับครอบครัว
แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบวันนี้เลย เพราะถ้าวันคริสมัส ปราศจากลูก หลาน ที่มาร่วมกินข้าวด้วยกัน หรือ ไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมสังสรรค์วันคริสมัสที่บ้านของลูก ๆ หลาน คงเหมือนกับ พ่อ แม่รอลูกกลับบ้านในช่วงวันสงกรานต์ของบ้านเรา คนต่างจังหวัดจะเข้าใจดี เพราะถ้าทุก ๆบ้านลูกหลานกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่ลูกของตัวเองไม่ได้มาในวันนั้น จะด้วยเหตุใดก็ตาม พ่อและแม่ก็คงจะแอบน้อยใจอยู่ไม่น้อย
แน่นอนวันคริสมัสเป็นเทศกาลที่ต้องให้ของขวัญกับเด็ก ๆ แต่เด็ก ๆ สมัยนี้มีความคาดหวังในของขวัญ ที่ตัวเองจะได้รับค่อนข้างสูง และส่วนใหญ่ก็จะอยากได้ เกมส์ มือถือ ราคาแพง แต่ถ้าเราไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะให้ได้ และเด็กก็แสดงพฤติกรรมที่ไม่อยากได้ของขวัญที่ผู้ใหญ่เตรียมมาให้ มันจึงทำให้หลาย ๆ คนไม่ชอบวันคริสมัสเอาเสียเลย
เนื่องด้วยผมเป็นคนพุทธ แต่ผมก็ชอบในวันคริสมาส เพราะ บรรยกาศ ทั่วทั้งเมืองถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างสวยงาม อากาศเย็นถึงขั้นหนาวแต่ถ้ามีคนเดินเล่นด้วยกันยามค่ำคืนก็จะเป็นคริสมัสที่สุดแสนจะโรแมนติก และผมก็ไม่ต้องซื้อของขวัญให้ใคร เพราะไม่ได้รู้จักใคร และร้านค้าต่าง ๆ ก็ลดราคาสินค้าต้อนรับเทศกาลคริสมัส คือ ได้ซื้อของราคาถูก
และถ้าเทียบกับวันปีใหม่ของไทยละ อันนั้นผมชอบมากกว่า เพราะเราได้หยุดยาว(ต้องลาเพิ่ม)และอากาศที่บ้านของผมก็จะเย็น ๆ มีการก่อกองไฟ และกินข้าวรอบ ๆ กองไฟ กินข้าวเสร็จก็ ทำข้าวจี่กินกัน ซึ่งเป็นบรรกาศที่อบอุ่น และยิ่งตอนที่ยายยังไม่เสีย ก็จะพวกมันเทศ สารพัดของที่จะมาปิ้งกับไฟ ซึ่งกองไฟที่ทำ คือ ทำไว้ในต้วบ้านเลย เหมือนเตาผิงของพวกฝรั่งแต่เราทำด้วยวิธีไทย ๆ สำหรับเรืองของขวัญ หลาน ๆ หรือ คนในครอบครัว ก็ไม่เคยที่เรียกร้องอยากจะได้อะไร ขอแค่ให้เรากลับบ้านโดยปลอดภัย ก็พอแล้ว
พอใกล้จะถึงอาทิตย์จะสิ้นปี ก็ไม่มีกระจิตกระใจอยากจะทำอะไร นับวันรอกลับบ้าน แต่งานกลับดันเยอะมากในช่วงสิ้นปี แต่ด้วยความเป็นลูกจ้างมืออาชีพ จึงจำเป็นต้องรีบเคลียร์งานในเสร็จแล้วค่อยสังสรรค์ ถึงแม้ว่าจะต้องฝืนใจอยู่บ้าง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น